บทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์

บทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3

คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer



เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติมบทที่ 4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม Internet Explorer
โปรแกรม lnternet Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม lnternet Explorer
1. แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2. แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้ เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3. แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4. แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5. สัญลักษณ์เคลื่อนไหว : เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
การหยุดการโหลด (Stop)

https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFWem9Kq5R-lz0HA5kf5H8Ev2ACVjZ4TxZ7o4oPNrKR2lVVcP_J6WiUOCHXPUw7iVTEVgNHEXcV7Mg7wICj5qZ-LNSem9-PKntIfB7YJek9RyXoa-LTJme49lMWCkuZ7Cu44EAu8U5hZNp/s320/pass02.gif
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม Stop



การสั่งให้มีการโหลดใหม่ (Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ Web ไว้ที่ช่อง Address แล้ว บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์ (Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ (Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม Internet Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่ OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2. ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1 คลิกที่ New Folder
2.2 ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create in
2.3 คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder) ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่ 3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์ หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่ โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์ หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต (History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต ทำได้ดังต่อไปนี้
1. คลิกที่ปุ่ม History
2. แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3. ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4. ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5. เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ (Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์ เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
   1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์ จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft Word
   2. เลือกจาก เมนู Fileà Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All = พิมพ์ทั้งหมด
-Selection = พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page= กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ (Page Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ Page Setup
หมายเลข 1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข 2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์ สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข 3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w คือ ชื่อเว็บเพจ
&u คือ Address ของเว็บเพจ
&d คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&& คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข 4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait = แนวตั้ง
Landscape = แนวนอน
หมายเลข 5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left = ระยะขอบด้านซ้าย
Right = ระยะขอบด้านขวา
Top = ระยะขอบด้านบน
Bottom = ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1. เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File à Save As...
2. โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3. Save in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4. File name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ File
Name ไดตามต้องการ
5. Save as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์ ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML โดยไม่มีภาพ
Text File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6. คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้ โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู View à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ดังต่อไปนี้
1. Smallest
2. Smaller
3. Medium
4. Larger
5. Largest
2. การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้ โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี Thai (Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้ ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ Work Offline
การทำ Work Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link) จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้ แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่ และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม Internet Explorer
วิธีที่ 1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
 เปิด Internet Explorer
 คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่ 2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์ เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่ 3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่ 3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on). เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet Explorer ใหม่
วิธีที่ 4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet Explorer
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7 ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet Explorer 8
เปิด Internet Explorer
คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน สำหรับ add-on ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น