บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม บทที่
4 การใช้งานโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์
การใช้โปรแกรม
Internet
Explorer
โปรแกรม
lnternet
Explorer จะประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญ ดังนั้น
ก่อนที่จะทำการใช้งานในโปรแกรม lnternet Explorer ก็ต้องทำความรู้จักกับโปรแกรมนี้ก่อน
ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบของโปรแกรม
lnternet
Explorer
1.
แถบชื่อ (Title Bar) : แถบแสดงชื่อเว็บไซต์ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่
2.
แถบเมนู (Menu Bar) : แถบคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้งานในโปรแกรม Internet
Explorerโดยเป็นหมวดหมู่เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานได้
เมื่อต้องการใช้งานใดก็เลือกคลิกตามคำสั่งนั้น ๆ ได้
3.
แถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard Toolbar) : แถบแสดงไอคอน (Icon) ขอคำสั่งต่าง ๆ ที่เป็นปุ่มคำสั่งพื้นฐาน
4.
แถบเครื่องมือที่อยู่ (Address Toolbar) : เป็นแถบที่สำหรับกรอกที่อยู่ของเว็บไซต์ที่ต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
5.
สัญลักษณ์เคลื่อนไหว :
เป็นสัญลักษณ์แสดงการโหลดข้อมูลของเว็บไซต์ที่เราต้องการจะเข้าไปเยี่ยมชม
เมื่อทำการโหลดข้อสมบูรณ์แล้ว สัญลักษณ์จะหยุดการเคลื่อนไหว
ในขณะที่โปรแกรมอยู่ในระหว่างการโหลดเว็บเพจตามที่เราพิมพ์ชื่อเว็บเพจไว้ในช่องAddress
นั้น เมื่อเราไม่ต้องการเว็บเพจนี้
หรือต้องการเปลี่ยนแปลงชื่อเว็บเพจใหม่ เราก็ควรจะหยุดการโหลดเว็บเพจโดยคลิกที่ปุ่ม
Stop
การสั่งให้มีการโหลดใหม่
(Refresh)
เมื่อเราพิมพ์ชื่อ
Web
ไว้ที่ช่อง Address แล้ว
บางครั้งเราจะพบว่าโปรแกรม Web Browser สามารถโหลดเว็บไซต์นั้นมาให้เราได้เพียงบางส่วนเท่านั้นก็หยุดการโหลด
โดยเราจะสังเกตจากรูปธงที่สะบัดอยู่มุมบนด้านขวาของหน้าจอโปรแกรมหยุดการสะบัด
เราสามารถสั่งให้โปรแกรมโหลดเว็บไซต์นั้นให้เราใหม่อีกครั้ง
โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ในช่อง Address ใหม่เพียงแคคลิดที่ปุ่ม
Refresh โปรแกรมก็จะทำการโหลดเว็บไซต์ที่เราต้องการให้ใหม่ทันที
การกลับยังหน้าแรกของเว็บไซต์
(Home)
ในการเข้าไปใช้งานเว็บไซต์ต่าง
ๆ เมื่อคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่น ๆ ของเว็บไซต์
ก็เหมือนกับเราเปิดหนังสือทีละหน้าอ่านไปเรื่อย ๆ เมื่อเราต้องการกลับไปยังหน้าแรกของเว็บไซต์นั้น
ๆ ถ้าคลิกที่ปุ่ม Back ก็เหมือนกับเราพลิกกลับมาทีละหน้า
แต่ถ้าต้องการกลับไปยังหน้าแรกครั้งเดียวเลยจะต้องคลิกที่ปุ่ม Home
การบันทึกเว็บเพจที่ชอบ
(Favorites)
เมื่อเราเล่นอินเทอร์เน็ตแล้วค้นหาข้อมูล
หรือค้นหาเว็บเพจใหม่ไปเรื่อย ๆ เรามักจะคลิกไปจนพบกับเว็บเพจที่น่าสนใจ
และต้องการที่จะกลับมาดูเว็บเพจนั้นอีกในครั้งต่อ ๆ ไป
เราจะมีวิธีในการบันทึกเว็บเพจนั้นเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเรา
เมื่อครั้งต่อไปที่ต้องการจะเปิดเว็บเพจนี้อีกก็ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ในช่อง Addressอีก แต่สามารถค้นหาได้จากสมุดบันทึกส่วนตัวของเราได้ทันที
ทำไห้เราสะดวกในการบันทึกเว็บเพจที่ชอบเก็บเอาไว้โดยไม่ต้องจดลงบนสมุดบันทึกอีกต่อไป
การบันทึกไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวภายในโปรแกรม
Internet
Explorer ให้ปฏิบัติตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1.
มีสมุดบันทึกของตนเองแล้ว (Folder) ก็ให้ไปคลิกเปิดสมุดของตนเองขึ้นมาแล้วก็คลิกที่
OK โปรแกรมก็จะทำการบันทึกเว็บเพจที่เราต้องการเก็บเอาไว้ในสมุดบันทึกส่วนตัวของเราทันที
2.
ไม่มีสมุดบันทึกของตนเอง ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี่
2.1
คลิกที่ New
Folder
2.2
ชื่อโฟลเดอร์ (Folder) ที่เราสร้างใหม่ก็จะมาปรากฏที่ช่อง Create
in
2.3
คลิกที่ปุ่ม OK ก็จะบันทึกเว็บเพจที่เราชอบไว้ในโฟลเดอร์ (Folder)
ของเราให้เรีบยร้อย
ขั้นที่
3 เมื่อต้องการปรับแต่งการจัดเก็บเว็บไซต์ไว้ในสมุดบันทึกให้เลือกที่Organize
Create
Folder: สร้างโฟลเดอร์ใหม่Rename: เปลี่ยนชื่อโฟลเดอร์
หรือชื่อของเว็บไซต์ที่จะบันทึกไว้ในสมุดบันทึกMove to Folder: ย้ายเว็บไซต์ที่บันทึกไว้ในสมุดบันทึกไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ใหม่
โดยให้คลิกที่ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการย้าย แล้วเลือก Move to Folder จะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อให้คลิกเลือกโฟลเดอร์ (Folder) ใหม่Delete: การลบโฟลเดอร์ (Folder) หรือลบเว็บไซต์ที่ได้บันทึกไว้แล้ว เมื่อต้องการลบคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์
หรือ โฟลเดอร์ (Folder) ที่ต้องการจะลบแล้วจึงคลิกที่ปุ่ม Delete
และจะปรากฏหน้าจอดังนี้ เพื่อเป็นการยืนยันการลบ
การเปิดดูเว็บไซต์ที่เคยไปเยือนมาแล้วในอดีต
(History)
ขั้นตอนในการค้นหาเว็บไซต์ในอดีต
ทำได้ดังต่อไปนี้
1.
คลิกที่ปุ่ม History
2.
แสดงข้อมูลของ History ทางด้านซ้ายมือ
โดยจะรวบรวมไว้ในแต่ละวันว่าได้เข้าไปเปิดเว็บไซต์ไหนบ้าง
3.
ถ้าต้องการตรวจสอบข้อมูลในวันใด ก็คลิกที่วันนั้น ๆ
ก็จะแสดงรายชื่อของเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เคยเข้าไปเยี่ยมชมมาแล้ว
4.
ถ้าเราต้องการกลับไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เคยไปเยี่ยมมาแล้วก็สามารถคลิกเลือกชื่อเว็บไซต์นั้นได้เลย
5.
เว็บไซต์จะแสดงขึ้นมาทันที
การพิมพ์เว็บเพจ
(Print)
ก่อนการพิมพ์ข้อความจากเว็บเพจควรจะต้องดูภาพก่อนพิมพ์เพื่อที่จะดูผลลัพธ์ที่จะได้เมื่อสั่งพิมพ์
เพื่อตรวจดูความถูกต้องก่อนที่จะพิมพ์ออกมาทางกระดาษ
การพิมพ์แบ่งออกเป็น
2 กรณี คือ
1. คลิกที่รูป เครื่องพิมพ์
จะเป็นการสั่งพิมพ์โดยอัตโนมัติ
คือพิมพ์หน้าเว็บเพจออกมาทั้งหมดเหมือนกับที่เราเครื่องพิมพ์ใน Microsoft
Word
2. เลือกจาก เมนู Fileà
Print จะสามารถกำหนดเงื่อนไขในการพิมพ์ตามที่เราต้องการได้ ดังนี้
-All
= พิมพ์ทั้งหมด
-Selection
= พิมพ์เฉพาะพื้นที่ที่เลือก (การเลือกพื้นที่ หรือ
ข้อความที่ต้องการการ พิมพ์ก็โดยการลากแถบดำคลุมพื้นที่ หรือ ข้อความนั้น ๆ)
-Current
Page= พิมพ์ในหน้าปัจจุบันที่ตำแหน่งของเคอร์เซอร์ (Cursor) กะพริบอยู่
-Page=
กำหนดหน้าที่ต้องการพิมพ์
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
(Page
Setup)
เมื่อต้องการที่จะกำหนดขนาดกระดาษ
และขอบกระดาษก่อนที่จะทำการพิมพ์เว็บเพจให้ทำการเลือกเมนู File
à Page Setup เพื่อกำหนดตามรูปแบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
การตั้งค่าหน้ากระดาษ
Page
Setup
หมายเลข
1 คือ การกำหนดขนาดของกระดาษที่ต้องการจะเลือกใช้ในการพิมพ์เว็บเพจ
หมายเลข
2 คือ การกำหนดถาดกระดาษของเครื่องพิมพ์
สำหรับเครื่องพิมพ์ที่สามารถป้อนกระดาษได้หลายทาง
หมายเลข
3 คือ การกำหนดกาพิมพ์ข้อความบนหัวกระดาษ และท้ายกระดาษ ดังนี้
&w
คือ ชื่อเว็บเพจ
&u
คือ Address ของเว็บเพจ
&d
คือ วันที่พิมพ์ แบบย่อ
&D
คือ วันที่พิมพ์ แบบยาว
&t
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบมาตรฐาน
&T
คือ เวลาที่พิมพ์ แบบ 24 ชั่งโมง
&p
คือ เลขหน้าที่พิมพ์
&P
คือ จำนวนหน้าทั้งหมดของเว็บเพจ
&&
คือ การใส่เครื่องหมาย &
&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางกลางกระดาษ
&b&b
คือ ให้พิมพ์โดยจัดวางชิดขวา
หมายเลข
4 คือ การกำหนดแนวให้การพิมพ์บนกระดาษ
Portrait
= แนวตั้ง
Landscape
= แนวนอน
หมายเลข
5 คือ การกำหนดระยะขอบกระดาษ
Left
= ระยะขอบด้านซ้าย
Right
= ระยะขอบด้านขวา
Top
= ระยะขอบด้านบน
Bottom
= ระยะขอบด้านล่าง
การบันทึกเว็บเพจ
เมื่อต้องการที่จะบันทึกเว็บเพจ
สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนการบันทึกเว็บเพจ
1.
เมื่อเปิดเว็บเพจที่จะต้องการบันทึกแล้ว ให้เลือกเมนู File
à Save As...
2.
โปรแกรมจะเปิดหน้าต่างของ Save Web Page มาให้
3.
Save
in : ให้ทำการเลือก Drive และ Folder ที่ต้องจะบันทึกเพจเก็บไว้
4.
File
name : โดยปกติโปรแกรมจะนำชื่อของเว็บเพจที่ต้องการจะบันทึกมาเป็นชื่อFile
Name
แต่ถ้าต้องการที่จะตั้งชื่อในการเก็บเว็บเพจที่ต้องการจะบันมึกมาเป็นชื่อ
File
Name
ไดตามต้องการ
5.
Save
as type : เป็นการระบุชนิดในการบันทึกเว็บเพจ ดังนี้
Web
Page, complete [*.htm, *.htm] = เป็นการบันทึกทั้งภาพและข่อความอย่างสมบูรณ์
ให้ผลลัพธ์เหมือนกับหน้าเว็บเพจจริงWeb Archive, single file [*.mht] = เป็นการบันทึกทุกอย่างแต่ให้ผลลัพธ์เป็นไฟล์เดียว
Web
page, HTML only [*.htm,*.html] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ HTML
โดยไม่มีภาพ
Text
File [*.txt] = เป็นการบันทึกเป็นไฟล์ข้อความโดยไม่มีภาพ
6.
คลิกที่ปุ่ม Save เว็บเพจจะถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ได้เลือกไว้ทันที
เว็บเพจที่ได้บันทึกไว้
โดยเลือก Save as type: Web page, complete [*.htm,*.htm]เมื่อเว็บเพจนั้นถูกบันทึกเก็บไว้ในโฟลเดอร์ที่ระบุไว้แล้ว
จะถูกแบ่งการบันทึกออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็ฯข้อความจะถูกบันทึกเป็นไฟล์นามสกุล .htm หรือ .htmlและส่วนที่เป็นไฟล์รูปภาพนั้นจะถูกบันทึกไว้ในโฟลเดอร์ที่มีชื่อเดียวกับไฟล์ข้อความ
ดังภาพ
การปรับแต่งตัวอักษร
การปรับแต่งตัวอักษร
แบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1.
การปรับแต่งอักษรให้มีขนาดที่เปลี่ยนแปลงไป
สามารถเลือกได้จากเมนู
View
à Text Size ซึ่งโดยปกติขนาดของตัวษรจะมีขนาดกลาง คือ Medium
แต่จะเปลี่ยนแปลงได้ 5 ขนาด โดยเรียงลำดับขากขนาดเล็กไปหาใหญ่
ดังต่อไปนี้
1.
Smallest
2.
Smaller
3.
Medium
4.
Larger
5.
Largest
2.
การปรับแต่งรูปแบบของภาษา
โดยปกติ
รูปแบบของภาษาที่ใช้ในเว็บเพจ
จะต้องมีรูปแบบของภาษาไทยเพื่อที่จะทำให้เว็บเพจที่เป็นภาษาไทยสามารถอ่านภาษาไทยนั้นได้
โดยดูได้จากเมนู
ถ้าไม่มี
Thai
(Windows) จะทำให้เว็บเพจนั้นไม่สามารถอ่านภาษาไทยได้
ถึงแม้ว่าเว็บเพจนั้นจะเป็นเว็บเพจไทยที่ทำขึ้นโดยใช้รูปแบบของตัวอักษรภาษาไทยก็ตาม
แต่ถ้าต้องการปรับเปลี่ยนให้รูปแบบของภาษาอื่น
ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ตามเมนูของภาษาต่าง ๆ ที่มีให้เลือก ตัวอย่างเช่น
เปลี่ยนเป็ยภาษาญี่ปุ่น ซึ่งเว็บไซต์นี้เป็นเว็บไซต์ไทยแต่เมื่อเลือกเมนู View
à Encoding à Japanese (Shift-JIS)
การทำ
Work
Offline
การทำ
Work
Offline เพื่อที่จะสามารถเก็บเว็บเพจที่ต้องการไว้อ่านอีกโดยไม่จำเป็นจะต้องทำการเชื่อมอินเทอร์เน็ต
ซึ่งข้อมูลในเง็บเพจบางครั้งมีจำนวนมากมาสามารถอ่านจบได้ในเวลาอันรวดเร็ว
แต่เราสามารถย้อนกลับมาอ่านได้อีกโดยหน้าเว็บเพจที่ทำ Work Offline ไว้จะแสดงหน้าจอเสมือนกับขณะนั้นเราได้ทำการเชื่อต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตทุกประการ
เพียงแต่ปุ่มเชื่องโยม (Link) ในหน้าเว็บเพจนั้นขณะที่ทำ Work
Offline นั้นยังไม่เคยผ่านการคลิกเพื่อเชื่อมโยงไปยังส่วนอื่น ๆ
หน้าเว็บเพจอื่น ๆ หรือเป็นการเชื่อโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ปุ่มการเชื่อมโยง (Link)
จะไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บเพจนั้น ๆ ได้
แต่ถ้าปุ่มการเชื่อมโยง (Link) นั้นเคยผ่านการคลิกผ่านมาแล้ว
ก่อนที่จะทำ Work Offline ปุ่มการเชื่อมโยงนั้นก็จะสามารถเปิดดูเว็บเพจน้าอื่น
ๆ หรือสามารถที่จะเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจอื่น ๆ ได้ทันที ถ้าต้องการทำWork
Offline สามารถเลือกได้จากเมนู FileàWork Offline ดังภาพเมื่อเลือกเมนุการทำ Work Offline แล้ว
จะปรากฏคำว่า “[Working Offline]” ด้านบนของหน้าเว็บเพจ
การเปิดหน้าต่างใหม่
วิธีนี้จะเป็นการเปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาในขณะที่น้าต่างเดิมยังคงอยู่
และหน้าต่างใหม่ที่เปิดขึ้นมาก็จะมีหน้าเว็บเพจเหมือนกับหน้าต่างเดิมทุกประการ
แต่ถ้าเราต้องการเปิดเว็บเพจใดก็ให้ไปเปลี่ยนชื่อของเว็บเพจในช่อง Address
ใหม่ หน้าเว็บเพจในหน้าต่างนี้ก็จะโหลดเว็บใหม่มาแสดง
แต่เมื่อเราต้องการจะกลับไปทำงานยังหน้าเดิม
ก็ให้คลิกที่ชื่อของเว็บเพจพร้อม ๆ กันได้หรือในขณะที่เรารอการโหลดเว็บเพจ
เราก็สามารถเปิดหน้าต่างขึ้นมาใหม่แล้วก็สั่งให้โหลดเว็บเพจอื่น ๆ ต่อไปก่อนแล้วจึงกลับมาดูยังเว็บเพจเดิมที่โหลดเสร็จแล้วได้
การปรับแต่งโปรแกรม
Internet
Explorer
วิธีที่
1: ล้างแคข้อมูลใน Internet Explorerเมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพหรือข้อผิดพลาด สาเหตุมาจากความเสียหาย
ในแฟ้มชั่วคราวของอินเทอร์เน็ต หรือ ในที่อื่น ๆ แคช ข้อมูลที่ถูกใช้ โดย Internet
Explorer คุณต้องล้างข้อมูลที่เก็บไว้ชั่วคราว เมื่อต้องการ
ทำเช่นนี้ การทำตามขั้นตอนเหล่านี้:Internet Explorer เปิด Internet
Explorer คลิก เครื่องมือแล้ว คลิก ลบ ประวัติการเรียกดู.
ใน
ลบประวัติการเรียกดูคลิกลบทั้งหมด.
คลิกเพื่อเลือก
ลบแฟ้มและการตั้งค่า การจัดเก็บ โดยโปรแกรม add-on กล่องกาเครื่องหมาย
จากนั้น คลิก ตกลง.Internet Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก ความปลอดภัยแล้ว คลิก
ลบประวัติการเรียกดู.
ในลบประวัติการเรียกดู
พื้นที่ คลิก ลบ.แสดงแถบความคืบหน้าการเพื่อบ่งชี้ว่า การเรียกดู
จะมีการล้างข้อมูลประวัติ หลังจากกระบวนการนี้เสร็จสมบูรณ์ ทดสอบทางอินเทอร์เน็ต Explorer
เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ให้ลองวิธีที่ 2
วิธีที่
2: ตั้งค่าการรักษาความปลอดภัยสำหรับ Internet Explorer ใหม่ถ้าคุณตั้งค่าคอนฟิกการตั้งค่าความปลอดภัยที่จะจำกัดเกินไป
คุณอาจ ป้องกันไม่ให้ Internet Explorer แสดงเว็บไซต์บางเว็บไซต์
เมื่อต้องการตรวจสอบ ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากการตั้งค่าความปลอดภัยที่จำกัด overly
ย้อนกลับไป การตั้งค่าความปลอดภัยเริ่มต้น เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิกตัวเลือกอินเทอร์เน็ต.
คลิก
รักษาความปลอดภัย แท็บ
คลิก
การตั้งค่าใหม่เขตพื้นที่ทั้งหมดไปยังระดับเริ่มต้น, จากนั้น คลิก
ตกลง.หลังจากที่คุณทำเช่นนี้ ทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า
โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น ลอง
วิธีที่
3หมายเหตุ ถ้าวิธีการนี้ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ คุณสามารถคืนค่า Internet
Explorer เพื่อให้ระดับการรักษาความปลอดภัยของก่อนหน้านี้
วิธีที่
3: เรียกใช้ Internet Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on"Add-on
ของ Internet Explorer เช่นตัวควบคุม ActiveX
และเบราว์เซอร์ ใช้แถบเครื่องมือ
โดยบางเว็บไซต์เพื่อให้สามารถเรียกดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประสบการณ์การใช้งาน
มีข้อผิดพลาดอาจเกิดขึ้น หาก add-on มีความเสียหาย
หรือแอดออน ความขัดแย้งกับ Internet Explorer เมื่อต้องการตรวจสอบว่า
ข้อผิดพลาดที่เกิดจาก add-on เรียกใช้ Internet
Explorer ในโหมด "ไม่มี Add-on" เมื่อต้องการทำเช่นนี้
ให้ปฏิบัติตาม ขั้นตอนเหล่านี้:
คลิก
เริ่มการทำงานจากนั้น พิมพ์Internet Explorer ในการ
เริ่มต้นค้นหากล่องคลิก Internet Explorer (ไม่มี Add-on).
เปิด Internet Explorer โดยไม่มี add-on
แถบเครื่องมือ หรือปลั๊กอินทดสอบ Internet Explorer เพื่อตรวจสอบว่า โปรแกรมทำได้อย่างถูกต้อง ถ้าปัญหายังคงเกิดขึ้น
ลองวิธีที่ 4ถ้าไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ปัญหาเกิดจากรายใดรายหนึ่งของ add-on
ซึ่งโดยทั่วไปจะโหลดพร้อมกับ Internet Explorer ในกรณีนี้ ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตัวเลือกต่อไปนี้ตัวเลือกที่ 1: ตั้งค่า Internet
Explorerการตั้งค่า Internet Explorer เพื่อแสดงการตั้งค่าคอนฟิกค่าเริ่มต้น
นอกจากนี้ขั้นตอนนี้จะปิดใช้งานใด ๆ โปรแกรม add-on ปลั๊กอิน
หรือแถบเครื่องมือที่มีการติดตั้ง ถึงแม้ว่าการแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว
นั่นยังหมายถึง ว่า ถ้าคุณต้องการใช้อย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าวโปรแกรม add-on
ในอนาคต พวกเขาต้องต้องติดตั้งใหม่ เมื่อต้องการตั้งค่าการตั้งค่า Internet
Explorer ใหม่
วิธีที่
4ตัวเลือกที่ 2: ใช้ตัวจัดการ Add-on เครื่องมือเพื่อดูว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของปัญหาใช้เครื่องมือ Manage
Add-ons ใน Internet Explorer แต่ละ add-on
เพื่อดูว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดที่ปิดใช้งานแต่ละรายการ
เมื่อต้องการทำเช่นนี้ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
Internet
Explorer
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือชี้ไปที่ จัดการ โปรแกรม add-onแล้ว คลิก
เปิดหรือปิดใช้งาน Add-on.ในการ แสดง กล่อง การเลือก โปรแกรม
add-on ที่ถูกใช้ โดย Internet Explorer เมื่อต้องการแสดง add-on ทั้งหมดที่
มีการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้ ให้เลือก add-on จากนั้น คลิก ปิดการใช้งาน
ภายใต้หัวข้อการตั้งค่า.เมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้
คลิกตกลง.จบการทำงาน และเริ่มระบบของ Internet Explorer 7
ใหม่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3คลิก เปิดการใช้งาน
สำหรับเพียงอย่างเดียว add-onทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8
จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดเกิดขึ้นInternet
Explorer 8
เปิด
Internet
Explorer
คลิก
เครื่องมือแล้ว คลิก จัดการ Add-on.บนเครื่อง
แสดง เมนูแบบหล่นลง เลือก Add-on ทั้งหมด เมื่อต้องการแสดง add-on
ทั้งหมดที่ติดตั้งไว้บนคอมพิวเตอร์สำหรับแต่ละสินค้าในรายการนี้
เลือก add-on และคลิ กปิดการใช้งาน
ในหน้าต่างรายละเอียดเมื่อคุณได้ปิดใช้งานรายการทั้งหมดในรายการนี้ คลิก
ตกลง.จบการทำงาน และเริ่ม Internet Explorer ใหม่ถ้าปัญหาไม่เกิด
ทำซ้ำขั้นตอนที่ 1 ถึง 3
คลิกเปิดการใช้งาน
สำหรับ add-on
ตัวเดียวทำซ้ำขั้นตอนที่ 6 ถึง 8 จนกว่าคุณกำหนดว่า add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้ใช้กระบวนการนี้เพื่อกำหนดว่า
add-on ตัวใดเป็นสาเหตุของข้อผิดพลาด คุณสามารถปิดใช้งาน add-on
นั้น หรือ คุณสามารถถอนการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งโปรแกรม add-on
เรายังแนะนำให้ คุณติดต่อผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ที่ให้ add-on สำหรับการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นและการสนับสนุนเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น